จังหวัดหนองคาย โดยอำเภอศรีเชียงใหม่ ข้ามโขงประชุมพบปะแลกเปลี่ยนด้านการข่าว และลาดตระเวนร่วมคณะเจ้าหน้าที่สำนักงาน (BLO) อำเภอศรีเชียงใหม่ กับเจ้าหน้าที่ สำนักงาน (BLO) เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ และเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่และส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาช้านาน
วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ที่ สำนักงานท่าเรือเก้าเลี้ยว บ้านด่านคำ
เมืองศรีโคตรตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์
นายวรรณพล ต่อพล
นายอำเภอศรีเชียงใหม่ มอบหมายให้
นายเดชมนตรี ผิวเหลือง
ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริการงานปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายอำเภอศรีเชียงใหม่นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมประชุมหารือและพบปะแลกเปลี่ยน ด้านการข่าว
และลาดตระเวนร่วมคณะเจ้าหน้าที่สำนักงาน (BLO)ของทั้งสองฝ่าย โดยมี ท่านสมชาย
แสงปะดิด หัวหน้าห้องว่าการเมืองสีโคดตะบอง
เป็นประธานฝ่ายเมืองสีโคดตะบอง และท่านคำแหง ดวงสิริ รองเจ้าเมืองสีโคดตะบอง
และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
จุดผ่อนปรนบ้านหม้ออนุญาตให้คนไทยและลาวเดินทางไปมาหาสู่กันอาทิตย์ละ
3 วัน เฉพาะในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 4
โมงเย็น ส่วนใหญ่ยังเป็นคนถิ่น เพราะนักท่องเที่ยวมักไปข้ามแดนทางด่านสะพานมิตรภาพ
ไทย-ลาว ที่อำเภอเมืองหนองคายการข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวแบบไม่ต้องการค้างคืนผ่านจุดผ่อนปรนแห่งนี้เป็นเรื่องง่าย
เพียงแต่มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำอยู่ที่จุดผ่อนปรน
แล้วซื้อตั๋วโดยสารเรือข้ามแม่น้ำโขงซึ่งเก็บค่าโดยสารคนละ 40 บาท ต่อเที่ยว
ที่ฝั่งลาวเป็นท่าเรือเก้าเลี้ยว
บ้านด่านคำ เมืองศรีโคตรตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์
ซึ่งที่บริเวณท่าเรือจะมีจุดตรวจเอกสารของเจ้าหน้าที่ลาว และโรงแรมไว้ให้บริการ
ที่จุดตรวจต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดิน (ควรจ่ายด้วยแบงก์ยี่สิบ
หรือแบงก์ร้อยเพื่อให้ทอนด้วยเงินไทยได้ลงตัว เพราะลาวไม่ใช้เหรียญกษาปณ์
ถ้าจ่ายด้วยแบงก์ห้าสิบ เจ้าหน้าที่ลาวจะทอนด้วยเงินกีบแทน)
บริเวณท่าเรือทั้งของฝั่งไทยและฝั่งลาวไม่มีตลาดให้นักซื้อได้เดินเลือกหาซื้อสินค้า
แต่กลับเป็น จุดขึ้น
ของสินค้านักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางข้ามไปลาวผ่านจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ
มักเลือกที่จะเดินทางไปหาซื้อสินค้าที่ตลาดจีน
ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือเก้าเลี้ยวประมาณ 5 กิโลเมตร
การเดินทางสามารถใช้วิธีจ้างเหมารถสามล้อเครื่อง หรือที่คนถิ่นเรียกว่า รถสกายแลป
ราคาตามแต่จะตกลงกัน
หากมีการขยายพื้นที่จุดผ่อนปรนและเพิ่มวันในการข้ามจาก
3 วันปัจจุบัน เป็น 6 วัน ก็จะเป็นการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตได้
ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อทุกๆ ฝ่ายในการสร้างงาน สร้างอาชีพ
ในอนาคต เชื่อว่ามูลค่าส่งออกสินค้าจุดผ่อนปรนบ้านหม้อจะอยู่ราว
650 ล้านบาทต่อปี
การประชุมพบปะครั้งนี้
ทางเมืองสีโคดตะบองได้ปรับขึ้นค่าโดยสารเรือ จาก 40 บาท เป็น 60 บาทต่อเที่ยว
ซึ่งทางฝ่ายอำเภอศรีเชียงใหม่(จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ)
ก็จะได้ปฎิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
สำหรับการขยายหรือเพิ่มวัน จาก 3 วัน เป็น 6 วัน นั้น
ขอให้ทางฝ่ายไทยได้ทำหนังสือเป็นลายรักษ์อักษรให้ชัดเจนเพื่อทางเมืองสีโคดตะบองจะได้ทำบันทึกเสนอตามลำดับต่อไป
ฝ่ายอำเภอศรีเชียงใหม่ ขอให้ฝ่าย
สปป.ลาว อนุญาตให้คนไทยที่ข้ามมาจุดนี้ให้สามรถเข้าไปได้ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ได้ เนื่องอยู่ไม่ไกล
ซึ่งทั้งสอง อำเภอศรีเชียงใหม่ และ
เมืองสีโคดตะบอง รับเอาข้อเสนอข้อขัดข้องเพื่อนำไปรายงานตามลำดับต่อไป
ทีมข่าวหนองคาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น